วันที่ 29 ม.ค. 2568 นางพรทิพย์ ศรีสมโภชน์ เกษตรจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้นายชนายุส ฐิติอุดมรักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กลุ่มอารักขาพืช เข้าร่วมการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออองขนาดเล็ก (PM2.5) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งจัดเตรียมข้อมูลการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องนำเสนอต่อที่ประชุม ในวันพุธที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมพระรักษาเทพ ศาลากลางจังหวัดชลบุรี เพื่อให้การติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออองขนาดเล็ก (PM2.5) เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) โดยมีท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานที่ประชุม พร้อมทั้งได้นโยบายและข้อสั่งการ/เน้นย้ำในการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ดังนี้
1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด
– สั่งการหน่วยงานดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ
– ให้พิจารณาออกประกาศกำหนดการควบคุมการเผาล่วงหน้า และบังคับใช้มาตรการทางกฏหมายในการห้ามเผาอย่างจริงจัง เคร่งครัด และเด็ดขาด
2. ยกระดับมาตรการป้องกันปราบปรามเพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่อย่างจริงจัง
– ใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและจัดทำบัญชีผู้มีพฤติกรรมการเผา
– ร่วมกันสอดส่อง ป้องปราม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มข้น
– หากพบการเผาในพื้นที่ให้ดำเนินการยับยั้งการเผาทันที กรณีพบการเผาในพื้นที่ป่าให้พิจารณาปิดป่าสงวนแห่งชาติ
3. ยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
– โดยออกหน่วยบริการให้คำแนะนำข้อปฏิบัติในการป้องกันตนเอง จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ห้องปลอดฝุ่น คลินิกมลพิษ ไว้บริการประชาชน เป็นต้น หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่องให้พิจารณาประกาศใช้มาตรการ Work Form Home อย่างจริงจัง
4. ยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
– ในการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ยุทโธปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และทรัพยากรอื่นๆ ให้พร้อมสนับสนุนในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
– กรณีมีความจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนทรัพยากรในการปฏิบัติการในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการโดยเร็วให้ทันท่วงที
5. กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือเกินค่ามาตฐานอย่างต่อเนื่อง
– ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ใช้ระบบการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ
– ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดประสานบูรณาการทรัพยากรร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่






















